SKF Quick Collect Sensor และความสำคัญของการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (2025)

SKF Quick Collect Sensor

เหตุผลที่การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์สำคัญ

  1. ลดความเสี่ยงของการหยุดทำงาน
    การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ช่วยให้สามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้ลดความเสี่ยงของการหยุดทำงานที่ไม่คาดคิด ซึ่งสามารถทำให้บริษัทเสียเวลาและรายได้
  2. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
    แทนที่จะทำการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา (Preventive Maintenance) หรือการซ่อมแซมเมื่อเกิดความเสียหาย (Corrective Maintenance) การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาเมื่อจำเป็นเท่านั้น ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ไม่จำเป็น
  3. ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์
    การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร โดยลดโอกาสการเสียหายจากการใช้งานผิดปกติและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์
  4. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
    การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ต่อเนื่อง และตอบสนองความต้องการของตลาดได้เร็วขึ้น
  5. ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
    การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ช่วยให้บริษัทสามารถรวบรวมข้อมูลจากการตรวจสอบและวิเคราะห์เครื่องจักรได้ ทำให้สามารถทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล เช่น การปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือการวางแผนการบำรุงรักษาในอนาคต

เครื่องมือและเทคโนโลยีในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

  • การวิเคราะห์สัญญาณจากเซ็นเซอร์: ใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสัญญาณต่าง ๆ เช่น ความสั่นสะเทือน อุณหภูมิ ความดัน หรือเสียงที่ไม่ปกติ
  • การใช้ AI และ Machine Learning: การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายความเสี่ยงและปัญหาที่จะเกิดขึ้น
  • การตรวจจับจากภาพถ่าย (Thermal Imaging): การใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพความร้อนในการตรวจจับการรั่วไหลของพลังงานหรือความร้อนที่ผิดปกติ

SKF Quick Collect Sensor คืออะไร?

SKF Quick Collect Sensor เป็นเซ็นเซอร์ที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย เพียงเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธ ผ่านแอพพลิเคชันบนแท็บแล็ต สมาร์ทโฟน ให้ข้อมูลได้ทั้งการสั่นสะเทือน ค่าสภาพตลับลูกปืนและอุรหภูมิ ซึ่งสามารถเลือกวิธีการแสดงผลได้ทั้งแบบเฉพาะครั้งนั้นๆ หรือระบบคราวด์ (Cloud) เพื่อการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

คุณสมบัติของ SKF Quick Collect Sensor

  • แสดง 3 ค่าการตรวจสอบได้พร้อมกัน ได้แก่ ค่าความสั่นสะเทือนในหน่วยความเร็ว (mm/s) ค่าสภาพตลับลูกปืน (gE) และค่าอุณหภูมิ
  • สื่อสารด้วยสัญญาณบลูทูธ ร่วมกับแท็บชแล็ต สมาร์มโฟน
  • ง่ายต่อการใช้งานโดยใช้แอพพลิเคชัน
  • ง่ายต่อการอ่านค่าสภาพเครื่องจักร
  • เหมาะสมต่อการใช้งานในอุตสาหกรรม โดยออกแบบให้ทนทานต่อการตกกระแทกที่ความสูง 1.8 เมตร (6ฟุต)และมีมาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นสูง (IP67) ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นละอองของสารที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อน และป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการจุ่มลงในน้ำ
  • เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย (ATEXZone1,class1,Div1)
  • แบตเตอรี่ลิเธียมแบบชาร์จไฟได้ (8ชั่วโมงทำงานต่อเนื่อง)
  • ได้รับการออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อ จัดเก็บและแชร์ข้อมูลบนระบบคราวด์ (cloud)ได้
  • ได้รับการออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับฝ่ายบริการงานวิเคราะหืสภาพเครื่องจักรระยะไกล ของเอสเคเอฟได้ (SKF REMOTE DIAGNOSTIC SERVICES)

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • เริ่มใช้งานได้ทันที
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • ช่วยระบุและแจ้งเตือนสภาพเครื่องจักรก่อนที่จะกลายเป็นปัญหา
  • เชื่องต่อโดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิเคราะห์สภาพเครื่องจักรที่พร้อมให้คำแนะนำในเชิงลึกเมื่อต้องการ
  • อีกทั้งยังสามารถขยายขีดความสามารถให้รับประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านแอพพลิเคชันอื่นๆ ของเอสเคเอฟ
  • ตรวจสอบและรับข้อมูลสภาพการทำงานของเครื่องจักรได้ทันที
  • ตอบสนองต่อปัญหาและสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • สามารถระบุแนวโน้มและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
  • ป้องกันการหยุดทำงานของเครื่องจักรอย่างกระทันหัน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร
  • ลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่จำเป็น และเพิ่มผลผลิต
  • ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานผิดพลาดของเครื่องจักร
  • มีข้อมูลเพื่อใช้ในการประเมินและปรับปรุงการทำงานอย่างมีระบบ

SKF Enlight Quick Collect System ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ 2 แอพพลิเคชัน ขึ้นกับความต้องการที่แตกต่างกัน ได้แก่ SKF Quick Collect เหมาะกับการใช้งานเบื้องต้นหรือ SKF Data Collect ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการจัดเก็บ สามารถเชื่อมต่อ จัดเก็บและแชร์ข้อมูลบนระบบคราวด์ (Cloud)ได้ รวมทั้งเชื่อมต่อกับฝ่ายบริการงานวิเคราะห์สภาพเครื่องจักรระยะไกลได้

หน้าจอแสดงผล ผลการวัดที่เซ็นเซอร์สามารถอ่านได้ จะแสดงบนสมาร์ทโฟนของคุณ เพื่อให้ทราบรายละเอียด ตามตัวอย่างด้านล่าง

การอ่านแต่ละครั้ง จะแสดงการวัดโดยรวมในปัจจุบัน รวมถึงสถานะการเตือน ค่าน้อยสุด ค่าสูงสุดและเกณฑ์การแจ้งเตือนและอันตราย

เครื่องมือของ SKF ในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) นั้นมีความหลากหลาย และมุ่งเน้นในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนการบำรุงรักษา โดยเฉพาะในด้านการตรวจสอบสภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อตรวจหาสัญญาณของการเสียหายหรือปัญหาก่อนที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรงขึ้น เครื่องมือที่ SKF พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ ได้แก่

1. SKF Condition Monitoring (CM) Tools

เครื่องมือการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะเพื่อประเมินสภาพของเครื่องจักรในเวลาจริง โดย SKF มีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในเครื่องจักร เช่น:

  • Vibration Sensors (เซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือน): ใช้ในการตรวจจับการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการสึกหรอหรือความผิดปกติในลูกปืนหรือส่วนประกอบของเครื่องจักร
  • Temperature Sensors (เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ): ตรวจจับอุณหภูมิที่สูงเกินไปซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพของหล่อลื่นหรือความร้อนสะสมในส่วนประกอบของเครื่องจักร

2. SKF @ptitude Monitoring System

ระบบนี้เป็นระบบที่มีการใช้เซ็นเซอร์เพื่อเก็บข้อมูลจากเครื่องจักร เช่น การสั่นสะเทือน อุณหภูมิ และแรงดัน ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งไปยังซอฟต์แวร์ที่สามารถทำการวิเคราะห์และให้คำแนะนำในการดำเนินการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

  • การวิเคราะห์การสั่นสะเทือน (Vibration Analysis) และการประเมินสภาพเครื่องจักรในเวลาจริง
  • ใช้เพื่อทำนายเมื่อใดที่เครื่องจักรอาจจะต้องการการบำรุงรักษาหรือการซ่อมแซม

3. SKF Pulse

SKF Pulse เป็นเครื่องมือที่มีการใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพาในการตรวจวัดสภาพเครื่องจักรจากการวิเคราะห์การสั่นสะเทือนและอุณหภูมิ โดยสามารถติดตั้งง่ายและใช้ได้กับเครื่องจักรต่าง ๆ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่

  • ใช้งานง่าย: เครื่องมือนี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือเพื่อให้การตรวจสอบทำได้ง่ายและรวดเร็ว
  • การแจ้งเตือนทันที: หากพบความผิดปกติในสภาพเครื่องจักร ระบบจะทำการแจ้งเตือนทันที เพื่อให้ทีมงานสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ก่อนที่จะเกิดการหยุดทำงาน

4. SKF Enlight Collecting and Analyzing Data

เครื่องมือที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูลจากเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และทำนายความผิดปกติของเครื่องจักรได้ในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการทำให้การบำรุงรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • การใช้อุปกรณ์มือถือเพื่อเก็บข้อมูลจากเครื่องจักร
  • การเชื่อมโยงข้อมูลและการประเมินผลโดยใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถทำนายความเสี่ยงและแนะนำการบำรุงรักษาได้อย่างแม่นยำ

5. SKF LubeSelect

เครื่องมือที่ช่วยในการเลือกชนิดของน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของเครื่องจักรต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเครื่องจักรและช่วยยืดอายุการใช้งาน

  • ช่วยให้เลือกน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมตามประเภทของเครื่องจักรและเงื่อนไขการทำงาน
  • ลดความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของน้ำมันหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม

ประโยชน์ของเครื่องมือ SKF ในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

  • ลดการหยุดทำงาน: ด้วยการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรในเวลาจริง การคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นช่วยให้เครื่องจักรไม่หยุดทำงานโดยไม่คาดคิด
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: เครื่องจักรสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและไม่เกิดการล่าช้า
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: สามารถบำรุงรักษาเครื่องจักรเมื่อจำเป็นจริง ๆ แทนการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา
  • ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร: การใช้เครื่องมือเหล่านี้ทำให้เครื่องจักรมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เนื่องจากลดการเสื่อมสภาพจากการใช้งานผิดปกติ

เครื่องมือของ SKF จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดำเนินการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ