SKF PHL FM10/400 เครื่องวัดความตึงสายพาน (Belt frequency meter)
“การวัดความตึงสายพานอย่างถูกวิธี” คือหนึ่งในขั้นตอนเล็ก ๆ ที่ช่วยยืดอายุเครื่องจักร ลดต้นทุนการซ่อมบำรุง และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างยั่งยืน
SKF PHL FM10/400 เป็นเครื่องมือวัดความตึงสายพานที่สามารถจับค่าสัญญานความถี่ที่เกิดจากการสั่นของสายพาน แล้วมาแปลงเป็นค่าความตึงหน่วยเป็น นิวตัน (N) ได้ เพียงคุณกรอกประเภทของสายพาน และระยะห่างของ Pulley ทั้ง 2 ฝั่ง คุณก็จะได้ค่าความตึงของสายพานของคุณ
นอกจากเครื่องมือจะแสดงค่าความตึงออกมาเป็นตัวเลขที่หน้าจอแสดงผลแล้ว SKF PHL FM10/400 ยังมีตารางมาตราฐานความตึงสายพานทุกประเภท ทั้ง V- Belt และ Timing Belt อีกด้วย
คุณสมบัติ
- การตรวจจับการสั่นสะเทือน/ความถี่ และความตึงของสายพานผ่านเซ็นเซอร์ออปติคัล (อินฟราเรด)
- ลำแสงที่สร้างด้วย LED สีส้มรองรับการเล็งของเซ็นเซอร์
- ระบบการวัดที่ใช้คริสตัลควอตซ์ที่เสถียรมาก
- ช่วงความถี่ที่ใช้งานได้: 10 Hz ถึง 400 Hz
- เรโซเนเตอร์เชิงกลที่แม่นยำ (ส้อมเสียง) เพื่อตรวจสอบการสอบเทียบค่าความถี่ของเครื่องอ่าน
- อุปกรณ์พกพาน้ำหนักเบา
ประโยชน์ของการวัดความตึงสายพาน
การวัดความตึงสายพาน (Belt Tension Measurement) เป็นขั้นตอนสำคัญในการ บำรุงรักษาระบบขับเคลื่อนด้วยสายพาน ไม่ว่าจะเป็นสายพานมู่เลย์ในเครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือระบบส่งกำลังในมอเตอร์ หากตั้งความตึงไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และลดประสิทธิภาพการทำงานได้
1. ป้องกันการสึกหรอของสายพานและมู่เลย์
การตั้งสายพานให้มีความตึงที่เหมาะสมช่วยลดแรงเสียดทานและการลื่นของสายพาน ป้องกันไม่ให้สายพานสึกหรอเร็วกว่าปกติ และช่วยยืดอายุการใช้งานของมู่เลย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ลดการสูญเสียพลังงาน
หากสายพานหย่อนเกินไป จะเกิดการลื่นระหว่างการทำงาน ทำให้มอเตอร์ต้องใช้พลังงานมากขึ้น การวัดและตั้งค่าความตึงให้เหมาะสมช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
3. เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร
ความตึงที่เหมาะสมทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น ระบบทำงานเสถียร ลดแรงกระชากและการสั่นสะเทือน ช่วยให้เครื่องจักรทำงานเต็มประสิทธิภาพและลดโอกาสหยุดชะงักจากการขัดข้อง
4. ป้องกันการเสียหายของตลับลูกปืน (Bearing)
สายพานที่ตึงหรือหย่อนเกินไปส่งผลโดยตรงต่อ แรงกดบนตลับลูกปืน ซึ่งอาจทำให้ตลับลูกปืนเกิดการสึกหรอหรือแตกหักก่อนเวลาอันควร การวัดค่าความตึงที่แม่นยำช่วยป้องกันความเสียหายเหล่านี้ได้
5. สนับสนุนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
การใช้ เครื่องวัดความตึงสายพาน อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจักรได้อย่างแม่นยำ รู้ล่วงหน้าว่าสายพานควรถูกปรับหรือเปลี่ยนเมื่อใด ลดโอกาสหยุดไลน์การผลิตแบบไม่คาดคิด
TECHNICAL DATA | ||
Designation | PHL FM10/400 | |
Measurement range | Frequency range | 10 to 400 Hz |
Measurement accuracy | Below 100 Hz ± 1 significant digit | |
Above 100 Hz ± 1% | ||
Belt mass input range | 0,001 to 9,990 kg/m | |
Belt span input range | 0,001 to 9,99 m | |
Maximum belt tension display | 9 990 N / 2 200 lb | |
Environmental conditions | Operating temperature | +10 to +50 °C |
Shipment and storage temp | −50 to +70 °C | |
Protection class | IP54 | |
Sensor | Type | Infrared optical |
IR wavelength | 970 nm | |
Visible aiming beam | Narrow angle orange LED | |
Housing | Machined aluminium | |
Cable length | 1 m | |
Power supply | Battery type | AA (MN1500) Alkaline only |
Number | 4 | |
Expected life | 20 hrs | |
Compartment location | Back of meter | |
Optional rechargeable batteries | Battery type | AA (1 300 mAh minimum) |
Charger | 12 to 15 V DC output | |
Socket/polarity | 3,5 mm positive centre |
ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่