“จารบี” (grease) และ “น้ำมัน” (oil) เป็นสองสิ่งที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมและการบำรุงรักษาที่มีคุณสมบัติและลักษณะทางเคมีที่แตกต่างกันดังนี้:
- จารบีเป็นสารที่มีลักษณะเป็นของเหลวหรือมัน แต่มีลักษณะหนืดกว่าน้ำมัน โดยส่วนใหญ่จารบีประกอบด้วยน้ำมันที่เข้มข้นและต่อมาผสมกับสารหนอนหรือขี้ผึ้ง (thickening agent) เพื่อให้มีความหนืดมากขึ้น.
- จารบีมักถูกใช้เป็นสารหล่อลื่นในการส่วนตัวเครื่องจักรและเครื่องมือ โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องการความหนืด เช่น ตลับลูกปืน, ลูกปืน, ระบบเกียร์, และข้อต่อที่ต้องการการหล่อลื่นแบบต่อเนื่อง.
- จารบีมีความแน่นหนามากกว่าน้ำมัน และมักใช้ในการลูบหรือทาลงบนพื้นผิวที่ต้องการหนืด เพื่อป้องกันการสึกหรอหรอย.
ระบบความหนืดของจารบีสามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับ โดยมีสัญลักษณ์หมายเลขความหนืดที่อ้างถึงความหนืดของจารบี ซึ่งมักมีตัวหนังสือหรือตัวเลขกำกับ:
- ระดับความหนืดที่ต่ำ: จารบีที่มีความหนืดต่ำมักถูกใช้ในสภาวะที่ต้องการการหล่อลื่นแบบบาง, และมักใช้ในงานที่ต้องการการเคลื่อนที่รวดเร็ว เช่น จารบีสำหรับแบร์ดแบร์ติง.
- ระดับความหนืดปานกลาง: จารบีที่มีความหนืดปานกลางมักถูกใช้ในงานที่ต้องการการหล่อลื่นแบบปานกลาง และมักใช้ในระบบที่มีแรงปั่นเยอะเล็กน้อย เช่น ตลับลูกปืน.
- ระดับความหนืดสูง: จารบีที่มีความหนืดสูงมักถูกใช้ในงานที่ต้องการความหล่อลื่นสูง และใช้ในระบบที่มีแรงปั่นเยอะมาก เช่น ระบบเกียร์ในเครื่องจักร.
การเลือกใช้จารบีที่มีระดับความหนืดเหมาะสมสำคัญเพื่อให้ระบบหรืออุปกรณ์ทำงานอย่างถูกต้องและปลอดภัย การใช้จารบีที่มีระดับความหนืดไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความเสียหายในระบบหรืออุปกรณ์ของคุณได้. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตจารบีเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกใช้จารบีที่เหมาะสมสำหรับงานหรือการใช้งานของคุณ.
ซึ่งจารบี SKF ถูกออกแบบและผลิตให้เหมาะสมกับการใช้งานในระบบแบริ่งและเครื่องจักรต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดทางเคมีและทางวิศวกรรมที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ แต่ละชนิดของจารบี SKF มีความหนืดและความละเอียดทางเคมีที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถใช้ในการหล่อลื่นและปกป้องแบริ่งอย่างมีประสิทธิภาพ.
การใช้จารบี SKF ที่ถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาและเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบหมุนและเครื่องจักรของคุณ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคู่มือจากผู้ผลิต SKF เพื่อเลือกใช้และดูแลรักษาจารบีอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการสึกหรอ การสึกหรอนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายในแบริ่งและอุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบของคุณได้.
2. น้ำมัน (Oil):
- น้ำมันเป็นสารเหลวที่มีความหนืดน้อย และมักประกอบด้วยหมายเลขความหนืด (viscosity) ต่ำ โดยไม่มีสารหนอนหรือขี้ผึ้งที่ทำให้มันหนืดมาก.
- น้ำมันมักใช้ในงานที่ต้องการความหนืดน้อยและการละลายที่ดีกว่า เช่น ในการลูบหรือทาบนผิวเครื่องจักร, การหล่อลื่นในระบบไฮดรอลิก, และการทำความสะอาดและเจือจาง.
สรุปแล้ว จารบีมีความหนืดมากกว่าน้ำมันและมักถูกใช้ในงานที่ต้องการความหนืดและการล่อบลื่นแบบต่อเนื่อง ในขณะที่น้ำมันมักใช้ในงานที่ต้องการความหนืดน้อยและการละลายที่ดีกว่า.